top of page

กฎข้อที่ 18 เวลา
 

 

 

            อีกสองวันก็เป็นวันแต่งงานแล้ว ผมกับลู่หานชวนกันออกมาข้างนอกเพื่อหาซื้อชุด และอะไรต่างๆนานาที่พูดให้ดูดี จริงๆมันก็คือลากกันออกมาเที่ยวนี่แหละ นี่เป็นช่วงเดียวที่ผมได้พักและเขาอยู่ที่เกาหลี เราจึงอยากใช้เวลาร่วมกัน น่าเสียดายจริงๆที่วันนี้เควินไม่ว่าง พักไม่กี่วันเขาก็ไปท่าเรืออีกแล้ว ก่อนเขาออกไปผมได้เจออีริคอีกครั้ง เป็นเรื่องดีๆของวันนี้เลย ไม่รู้ผมดีใจมากเกินไปไหม ผมเข้าไปกอดอีริคไม่ต่างจากเขาเป็นพี่ชายของผม แต่เอ่อ…คนของผมมันลากคอออกมา แล้วรีบไล่อีริคไป จนถึงตอนนี้ผมออกมากับลู่หาน ก็ยังเดินตามมาด้วย ไม่มีงานทำหรือไง เป็นประธานบริษัทแล้วทำให้ตกงานใช่ไหม -_-;
 

            ผมชอบความเป็นกันเองของลู่หานมาก เราเดินจับมือกันดูโน้นนี่นั่น จนมาถึงร้านน้ำหอมแบรนด์ที่เขาบอกว่าใช้ประจำ ผมไม่เคยใช้แบรนด์นี้นะ
 

            “หอมไหม” เขาฉีดใส่แขนตัวเองแล้วยื่นมาให้ผม

            “อืม…กลิ่นมันโอเคนะแต่ดูนุ่มนวลไป” ผมจับแขนเขามาดมแล้วพยายามแยกกลิ่นตามความรู้สึก

            “ไม่ชอบเหรอ”

            “อืม ไม่ค่อยชอบ”

            “ตัวนี้ล่ะ” เขาฉีดทับแขนเดิมแต่ไล่ขึ้นมาข้างบน ทำให้ผมแยกกลิ่นไม่ค่อยออก

            “ตรงนี้สิ แยกกลิ่นไม่ออก” ผมหยิบขวดน้ำหอมมาแล้วฉีดเข้าที่ซอกคอของเขา ยื่นกน้าเข้าไปดมใกล้ๆ

            “อ่า…ขวดนี้โอเคกว่า ดมใกล้ๆไม่เลี่ยน ไม่มีความอ่อนหวานไป ไม่ดาร์คไปด้วย ให้อารมณ์เท่ดีนะ”

            “อื้อ โอเค งั้นเราใช้เหมือนกันไหม”

            “ได้สิ”

            “เอาอันนี้ครับ สองขวด” ลู่หานบอกพนักงาน แล้วยื่นบัตรให้
 

            เราเดินออกจากร้านน้ำหอม ผมหันไปมองหน้าอี๋ฟาน เขาคงหิวแล้ว หน้าเหวี่ยงใส่พวกเราจนดูอารมณ์ออกชัดเจน -_-;
 

            “หิวไหม ไปหาอะไรกินกันก่อนไหม” ผมถามอี๋ฟาน แต่หมอนี่มันเงียบใส่ จากเดินตามเรามาก็เดินนำแล้วตอนนี้ ผมกับลู่หานมองหน้ากัน ไม่ใช่หิวแล้วแบบนี้ หึงสินะ เอาอีกแล้ว เข้าใจมันก็เข้าใจเขานะ แต่พวกผมขำมากกว่า
 

            ต้นเหตุที่อี๋ฟานหึงขนาดนี้ เพราะเมื่อคืนผมเข้าไปนอนกับลู่หาน เพื่อนัดกันเรื่องของวันนี้ เควินตามเข้ามาและเอาน้ำผลไม้มาให้ พวกเราเลยอยู่กันสามคน ไม่ได้ลืมเขานะครับ แต่มันไม่ใช่เวลาของคนรัก ทำไงได้ เช้ามาก็เจอผมกอดกับอีริคเข้าอีก เอาไว้ค่อยง้อทีเดียวแล้วกันครับ ตอนนี้ผมให้เวลากับลู่หานก่อน

           

 








 

            ///
 

            และแล้วเช้าแห่งหายนะของผม ทันทีที่ผมลืมตาขึ้นมาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเช็คข่าวสาร และตารางว่างจากการประชุม ผมกดเปิดอีเมล์ที่ผมทิ้งไว้ยังไม่ได้อ่าน ปัญหาก็เกิดขึ้นทันที เมดสาวที่เคยทำงานที่บ้านของผม เราเคยมีสัมพันธ์กันนิดหน่อย ส่งข้อความพร้อมรูปภาพท่าทางที่ผมนอนกอดเธอมาให้ คำอธิบายสั้นๆเกี่ยวกับมันคือ เราจะเจอกันอีกในไม่ช้า เธอลาออกไปแล้วเกือบหนึ่งปีหลังจากที่ผมกลับไปบ้าน สติผมหลุดลุ่ยและไม่สนใจใครตอนนั้นนอกจากงานและคนที่ผมรัก ผมจึงไม่เลียวแลเธอเลย จนผมรู้ไม่นานนี้ว่าเธอลาออก ผมไม่เคยคิดจะสนใจเธอจริงๆ จนกระทั่งวันนี้แหละ -_-;
 

            ผมรีบลุกขึ้นอาบน้ำไปหาชานยอลทันที แต่…ชานยอลไปอยู่ห้องของลู่หาน สองคนนี้เป็นอะไรกันมากไหมทำไมต้องตัวติดกันขนาดนี้ ผมไม่หึงแต่ผมก็ไม่ค่อยพอใจนะที่อยู่ๆชานยอลให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าผม มันหงุดหงิด พอเข้าไปในห้องพี่ชายผมมันก็เสือกอยู่ด้วยอีก ผมเลยเดินหนีออกมาเคลียร์ปัญหาตัวเองจะดีกว่า ชานยอลรู้เรื่องนี้ไม่ได้เด็ดขาดผมตายแน่
 

            หลังจากอาหารเช้า ผมยืนมองเขากอดกับอีริคแบบไม่มีปากเสียงจะพูดอะไรได้ทั้งนั้น ผมเริ่มลังเลว่าจะบอกเขาดีไหม แต่มันเป็นปัญหาที่ผมต้องแก้เองนี่นา ทำไงดี …
 

            แล้วโชคก็ไม่เข้าข้างผมเลย เมื่ออยู่ๆสองเพื่อนรักคู่ใหม่อยากออกไปเที่ยวข้างนอกเพื่อนเลือกซื้อของต่างๆ ผมคงปล่อยให้ชานยอลอยู่ไกลตัวผมไม่ได้ตอนนี้ ผมต้องตามเข้าไป เฮ้อ…กลุ้มใจ
 

            ณ.เวลานี้ มื้อเที่ยงที่ผมรอคอยหลังจากเดินถือของช่วยคนรักและช่วยเพื่อนผมหรือเพื่อนของคนรักผมไปแล้วก็ไม่มั่นใจ ทั้งน้ำหอมเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้าสองคนนี้ซื้อทุกอย่างคล้ายและเกือบเหมือนกันทั้งหมด ผมกับเควินเป็นแฝดกันยังไม่เคยคิดจะแต่งตัวเหมือนกันเลย ทำไมพวกเขาถึงอยากจะดูคล้ายกันขนาดนี้ เห็นแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด ชานยอลน่าจะเปลี่ยนมาใส่เสื้อคู่รักกับผมยังดีกว่า
 

            (((ครื๊ด))) ผมสะดุ้งทุกครั้งที่ชานยอลมีสายหรือข้อความเข้า ผมวิตกจริตอยู่ -_-;
 

            “ยอโบเซโย ยอโบเซโย…ใครเหรอครับ” ชานยอลรับสายใคร ผมตั้งใจฟัง

            “อ่า…นายเองเหรอจงอิน ทำไมเปลี่ยนเบอร์ล่ะ”
 

ฟู่…ผมถอนหายใจ ตอนนี้ให้คุยต่อไปเถอะ ผมต้องจิตตกอีกนานไหมเนี่ย ผมน่าจะตามหาเมดสาวนั่นแล้วรีบเคลียร์กับเธอให้จบ เธอต้องการอะไรจากผมกันแน่ แต่ถึงยังไงผมก็ต้องรอให้งานแต่งงานพี่ยูราผ่านไปก่อน TT;
 

            “อี๋ฟาน เหม่ออะไรทำไมนายไม่กินเข้าไปล่ะ ไหนบ่นว่าหิวไง” ลู่หานถามผม ชานยอลก็มองผมอยู่ เอ่อ…

            “กินอยู่นี่ไง พวกเราจะไปไหนกันต่อเหรอ กลับหรือยัง”

            “เดี๋ยวกลับบ้านก่อน ดึกๆจะออกไปงานวันเกิดแฟนจงอินน่ะ ไปด้วยกันไหม”

            “ไป!” ผมตอบแบบไม่ต้องคิดเลย

            “อ่า แล้วผมไปด้วยได้ไหม” ลู่หานหันไปถามชานยอล

            “นายต้องไปสิลู่หาน นะนะ ไปเป็นเพื่อนหน่อย” ชานยอลบอกลู่หาน ไอ้เสียงแบบนี้ทำไมไม่มีกับผมบ้าง
 

            งั้นคืนนี้ผมก็ต้องออกมาเป็นบอดี้การ์ดอีกแล้วสินะ รู้สึกเซ็งสุดๆที่บอกชานยอลไม่ได้เลย ปวดหัวโว๊ย!

           

 


 

            บ้านครอบครัวปาร์ค
 

            เราทุกคนกลับมาถึงบ้านแล้ว ผมและชานยอลแยกมาอยู่ในห้องกันตามลำพัง เขาจัดของอยู่หลังจากแยกของกับลู่หานแล้ว รายนั้นก็คงจะทำเหมือนกัน ผมนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง แอบมองเขาบ้างบางครั้ง มีช่วงนึ่งที่ผมขับรถอยู่ข้อความเข้ามาในมือถือผม เมื่อถึงบ้านผมแอบเข้าห้องน้ำเปิดอ่านทันที มีแผนที่เช็คอินที่อยู่ของเกาหลีโชว์ขึ้น ต้นทางเป็นชื่ออีเมล์ของเมดคนนั้น เธอมาเกาหลีแล้ว ความกังวลของผมมันยิ่งเพิ่มมากขึ้น ผมควรบอกชานยอลก่อนดีไหม แต่มันเป็นเรื่องนานแล้ว จะทำให้เขาไม่สบายใจหรือป่าว ในสายตาพ่อของเขาผมไม่มีอะไรดีเลยอยู่แล้ว  แล้วยังมีเรื่องนี้เข้ามาอีก
 

            “เงียบไปนะวันนี้ มีอะไรหรือป่าว” เขาถามแล้วเดินมานั่งข้างๆผม

            “ป่าว เหนื่อยไหมนวดให้”
 

            ผมลุกขึ้นไปนั่งด้านหลังเขาแล้วบีบไหล่นวดให้อย่างเบามือ ผมก็อยากทำอะไรดีๆให้กับคนรักของผมบ้างเหมือนกัน ไม่ว่าสถานะเราตอนนี้จะเป็นอะไรก็ชั่งมัน ผมไม่จำกัดความมันอีกแล้ว ขอแค่ได้อยู่ดูแลเขาที่ผมรักให้มากที่สุดก็พอ
 

            “พอแล้ว หายเมื่อยแล้ว”
 

            เขาจับมือผมไปกุมไว้รอบเอวไม่ต่างจากกอดเขาไว้แนบอก ผมเอนหัวเขาพิงลงมาที่ไหล่ผมแล้วลูบมันเบาๆ ชานยอลหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านต่อจากที่ผมอ่านไว้ ผมเลื่อนตัวไปพิงหมอนหัวเตียงแล้วขยับตัวเขาให้ตามเข้ามา เฮดโฟนคนละข้างที่มีเสียงเพลงเดียวกันดังในหูผมและคนรักอีกครั้ง บรรยากาศเดิมๆกลับมาแล้ว เหมือนที่เราเคยใช้ชีวิตด้วยกัน
 

            “ชานยอล คิดถึงกีตาร์ไหม”

            “คิดถึงสิ แต่มันพังไปแล้ว ยังเก็บไว้อยู่ไหม”

            “เก็บสิ มันอยู่ที่เดิมไม่เคยไปไหนเลย ขอซื้อให้ใหม่นะ”

            “อื้ม ซื้อให้หน่อยนะ” เขาหันมายิ้มสดใสให้ผม แต่ผมรู้สึกน้ำตาคลอ
 

            คำอธิฐานขอพระเจ้าของผมเป็นจริงแล้ว ต่อไปนี้ลูกจะทำตามสัญญาของท่านทุกอย่าง ลูกจะเป็นคนดี ดีให้มากพอให้สมกับลูกเป็นคนที่เขารัก
 

            “สอนร้องเพลงจีนหน่อยสิ”

            “ได้สิ ชอบเพลงแนวไหนล่ะ”

            “เมทเทิล อิเล็กทิกส์ ฮิปพอบ” -_-; ความโรแมนติกของเขาอยู่ตรงไหน

            “เพลงช้านะ ป๊อบฟังสบายๆดีกว่า”

            “”อ่า…โอเค”

“wei liang deng guang xia de ni hai shi yi yang mei li”

“แปลทีละท่อนสิ”

“ภายใต้แสงไฟที่สลัว เธอก็ยังคงงดงามเมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง”

“…” เขาเงียบ

“you mei you yi shou  ge ke yi gei wo yong qi shuo ju dui bu qi”

“จะมีเพลง สักเพลงไหมที่สามารถให้ความกล้ากับฉัน บอกเธอสักคำว่าขอโทษ”

ผมจงใจบอกเขาผ่านเนื้อเพลงนี้

“guo qu jiu zhe wo de xin”

“อดีตที่ผ่านมาเกาะกุมหัวใจฉันไว้แน่น”

“อี๋ฟาน เนื้อเพลงมันเลี่ยนไปนะ” โป๊ก!...ผมเขกหัวเบาด้วยความมั่นไส้ -_-;

“ถ้าไม่ใช่นายไม่ได้ฟังนะ”

“อ่า…เพราะดีนะ เพราะที่สุด นายยอดเยี่ยมมาก ร้องต่อสิ…”

“wo ai ni”

เขาน่าจะรู้ความหมายของคำนี้ดี อุก! …ปลายศอกทุ้งมาที่อกผมเบาๆ เขินล่ะสิ ฮ่าๆๆๆ

 



 

ก๊อก ก๊อก ก๊อก …เราหันไปมองหน้าประตูพร้อมกัน ใครว่ะมาขัดจังหวะ -_-;

            ผมเป็นคนลุกขึ้นไปเปิดเอง ชานยอลลุกมานั่งมองว่าใครมาเรียกพวกเรา
 

            “เชิญครับ” ผมมองออกไปหน้าประตู O_o; “คุณพ่อเองเหรอครับ ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือป่าวครับ”

            “พ่อเหรอครับ” ชานยอลรีบออกมาหน้าห้อง ยืนอยู่ข้างผม

            “มีเรื่องจะคุยกับพวกเธอทั้งสองคนหน่อย เข้าไปข้างในได้ไหม”

            “เชิญครับพ่อ” ชานยอลบอกออกไป ผมเปิดประตูกว้างแล้วลีกตัวออกยืนก้มไว้
 

            มีเรื่องอะไรครับคุณพ่อ ตอนนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นไปหมด เรื่องเก่ายังไม่หาย เรื่องใหม่จะมาอีกแล้วเหรอ ขอให้เป็นเรื่องดีๆของเราสองคนเถอะ คุณพ่อนั่งลงบนเก้าอี้ เราสองคนยืนอยู่ข้างๆกัน แต่ผมไม่กล้ากุมมือ มันออกจะเวอร์ไปหน่อย
 

            “ชานยอล ลูกกำลังจะเป็นประธานบริษัท พี่สาวของลูกก็กำลังจะแต่งงานมีครอบครัวแล้ว แล้วลูกล่ะ อยากแต่งงานไหม”

            “ผมไม่อยากแต่งงานครับ”

            T^T;

            “แล้วจะอยู่กันไปแบบนี้เหรอ จะออกไปใช้ชีวิตด้วยกันไหม”

            “เราคงไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเท่าไหร่หรอกครับคุณพ่อ อี๋ฟานก็มีงานต้องรับผิดชอบ ผมก็ด้วย”

            “แล้วจะเอายังไง”

            “ชานยอล …แต่งงานกันเถอะ!” ผมพูดออกไป

            “ห๊า…”

            “ถ้าเราอยู่ด้วยกันแบบนี้ มันจะเสียหายนะ เราทั้งคู่ไปไหนก็โดนจับตามองมากอยู่แล้ว แต่งกันเถอะถึงไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน แต่เราก็แต่งงานกันแล้ว”

            “นั่นสิ พ่อเห็นด้วยกับอี๋ฟานนะ ที่พ่อจะมาคุยคือเรื่องนี้แหละ วงการธุรกิจใกล้ชิดกันมากก็ดูไม่ดี มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาจากพวกแสวงหาผลประโยชน์ลูกก็รู้”

            “ครับพ่อ …”
 

ชานยอลเงียบไปพักใหญ่ ผมลุ้นตาม เขาจะตอบตกลงแต่งงานกับผมไหม ผมก็แค่ใช้เหตุผลนี้เป็นข้ออ้างเท่านั้นแหละ จริงๆแล้วผมโคตรอยากแต่งงานกับเขาเลย ตั้งแต่วันที่เขาบอกพ่อของเขาในห้องนั้นว่าไม่คิดจะแต่งงาน ผมเลยไม่กล้าพูดมันออกมา
 

“ตกลงครับ ผมจะแต่งงาน”
 

O_O; เยส! เยส! เยส! ในที่สุด ก็ยอมตกลงโว๊ยยยยย!!!! ผมยิ้มรักษามารยาทไว้ก่อน ตรงข้ามกับอารมณ์ตัวเองมาก ผมอยากตะโกนให้ลั่นโลกเลยตอนนี้
 

“แต่งเงียบๆนะครับ ส่วนเรื่องหมั้นเราหมั้นกันแล้ว” เขาบอกพ่อ

ตอนไหนว่ะ -_-;

“งั้นไว้ชั้นจะคุยเรื่องนี้กับแม่ของเธอเองนะอี๋ฟาน ขอตัวก่อนล่ะ”

“ครับ ขอบคุณมากครับ”

เราสองคนก้มรอจนพ่อเดินออกจากห้อง ผมล๊อคกลอนไว้ทันที ต้องคุยกับชานยอลให้รู้เรื่อง!

“ชานยอลทำไมบอกพ่อไปแบบนั้นล่ะ เราไม่เคยหมั้นกันเลยนะ”

“ก็จะหมั้นอยู่นี่ไง”

“เห๊…”
 

ชานยอลเปิดลิ้นชักแล้วหยิบกล่องใส่แหวนออกมา เขาจับมือซ้ายผมยกขึ้นแล้วสวมแหวนทองคำขาวลายเรียบขนาดเท่ากับนิ้วผมเป๊ะเข้ามา ผมมองมันด้วยความอึ้ง! จะไม่ให้อึ้งได้ไงครับ มันควรเป็นหน้าที่ผมไม่ใช่เหรอ
 

“อ่ะนี่ …ใส่ให้หน่อยสิ”

“…”

เขายื่นมือมาให้ผม ผมรับแหวนคู่อีกวงมาจากเขาแล้วประครองมือไว้ค่อยๆสอดเข้าไปสุดนิ้ว ผมรู้สึกดีใจที่เราหมั้นกัน แต่ก็รู้สึกเหมือนกันว่า แหวนควรมาจากผมให้เขามากกว่า

“ทำไมถึงเตรียมไว้แล้วล่ะ”

“ซื้อมาผิดน่ะ สั่งไปเป็นคู่หญิงชายได้แหวนเป็นของผู้ชายทั้งคู่มา เลยเก็บไว้มานานแล้ว”

-_-;

“จะสั่งคู่หญิงชายมาทำไม ตอนนั้นนายมีแฟนเหรอ”

“ป่าว สั่งมาใส่กับพี่สาว คิดมากจริงๆ”

“หวงเมียนิ” คำแรกที่ผมเรียกเขาต่อหน้าแบบนี้ ผมอยากให้เขารู้สิ่งที่ผมคิด

“…” เขาเงียบใส่ผม โกรธหรือป่าว

แขนเรียวเข้ามาโอบกอดรอบคอผมไว้ ยื่นหน้ามาวางบนไหล่ “รักสามีนะ”
 

>/////////////////////////////////////////////////////////////< ; ลาตายเลยครับ -O- T[]T;


























 

 

 

G Minor!

 

bottom of page