top of page

 

 

            ใกล้ถึงเวลาเลิกงานแล้ว เอกสารบนโต๊ะผมจัดการไปหมดแล้ว สมองผมนั่งคิดถึงผู้ชายคนนึงที่เรียกตัวเองว่าสามีผม อดยิ้มให้กับนิสัยของเขาไม่ได้จริงๆ ตั้งแต่วันแรกที่ผมเจอซุปเปอร์สตาร์ร๊อคที่สนามบิน ชีวิตผมก็ดูจะมีสีสันขึ้นเยอะเลย เราเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่นิสัยต่างกันสุดขั้ว เขาเป็นผู้ชายที่ผมเจอได้ทั่วไปตามกลุ่มเพื่อน ผมถึงดูออกทุกอย่าง ผมไม่ได้กลั่นแกล้งพี่คริสหรอกครับ แต่ผมแกล้งตัวเองต่างหาก ปากกาที่นิ้วมือวนไปวนมาสลับกับใบหน้าของคนในหัวสมอง รอยยิ้มผุดออกจากมุมปาก

 

            ทุกคืนผมไม่ได้เป็นฝ่ายหลับไปก่อน ผมแค่รอ รอเป็นเพื่อนทำลายอารมณ์ความต้องการที่เขามีสงบลง ผู้ชายอีกคนที่โกรธ หงุดหงิด ไม่พอใจ แต่จูบผมที่หน้าผาก ห่มผ้าให้ผม บอกฝันดีผมทุกคืน  เป็นครั้งแรกที่ผมมีคนเอาใจใส่จริงๆในช่วงเวลาที่ผมไม่ลืมตาขึ้นมา ผมรู้สึกดี เฮ้อ...แต่สุดท้าย ผมก็ต้องห่มผ้าให้เขาที่นอนถีบผ้าห่มออกจากตัวเหมือนเดิม  ซักวันผมจะจับตัวเขามัดติดกับตัวผมเวลามันไปเลย -_-;

 

            เลิกงานดีกว่า ...

            “กลับแล้วเหรอคะ ท่านรองประธาน เดินทางปลอดภัยค่ะ”

            “เลิกงานแล้ว เรียกพี่ได้แล้วครับ”

            “ค่ะ พี่ชานยอล  เอ่อ... พี่ชานยอลคะ ไม่ให้สามีมารับเหรอคะ?”

“ไม่ดีกว่าครับ สองวันก่อนเขาไม่ค่อยสบายเพราะพี่”

“อ่า... แบบนี้นี่เองพี่ถึงเลิกงานเร็วขึ้น ปกตินาอึนเห็นพี่นอนที่บริษัทบ่อยๆ พอแต่งงานแล้วพนักงานหลายคนเริ่มแซวว่าพี่ติดชีวิตแต่งงานไปเลยค่ะ คริคริ”

“พี่เคียร์งานส่วนของพี่ในช่วงนั้นให้เสร็จก่อนแต่งงานต่างหากล่ะ เราก็พูดไป ฮ่าๆๆๆ”

“นาอึนอยากมีคู่ชีวิตแบบพี่ชานยอลจังเลยค่ะ เป็นความเพ้อฝันของผู้หญิงแบบเราเลยนะ พี่ไม่รู้เหรอคะว่าพวกเธอในออฟฟิคอกหักตั้งหลายคนวันที่สามีพี่มาที่นี่”

“อ่า...นั่นสินะ แล้วเขาหล่อไหมในสายตาเธอ” ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ในนาอึน

“หล่อมากเลยค่ะ หล่อสุดๆไปเลย เหมือนเจ้าชายมากค่ะ แสงวิบวับๆลอยบนใบหน้าเขาตอนที่นาอึนมองไปอ่ะพี่ชานยอล นาอึนแทบกรี๊ด >/////<; เขาเหมาะกับพี่มากค่ะ พี่ก็หล่อเขาก็หล่อ หล่อมากทั้งคู่เลย ถึงจะหล่อกันคนละแบบ นาอึนชอบที่เขาสูงกว่าพี่นะคะ พี่จะได้ซบอกเขาได้ไง ยอดเยี่ยมไปเลย  -O-;”

“เอ่อ... นาอึน -_-;”

“นาอึนถามอะไรพี่ชานยอลอย่างนึงได้ไหมคะ? . .3;”

“อื้ม ว่าไงถามมาสิ”

“ทำไมพี่ไม่แต่งงานกับผู้หญิง?”

ผมจะตอบยังไงดีล่ะ เพราะผมอยากแต่งงานเลยแต่งกับเขาอย่างนั้นเหรอ ไม่ดีกว่า ผมยอมเป็นฝ่ายเสียเอง

“เพราะพี่หลงรักสามีตัวเอง จนลืมผู้หญิงทุกคนไปหมดเลย ^^;”

ติ๊ง ! ลิฟเปิดออก ผมบีบไหล่นาอึนเบาๆ เพื่อบอกลา
 

ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในรถซักครู่ใหญ่ ยังไม่อยากกลับบ้าน ถึงจะรู้ดีว่าเขารอผมอยู่แน่ๆ ผมก็อยากเจอเขา แต่ผมยังไม่พร้อมเรื่องอื่น



             (((ครื๊ด)))

ผมมองหน้าจอมือถือมีแสงไฟเปิดออก เพื่อนของผมโทรมา

“ยอโบเซโย”

“มึงหายไปไหนมาว่ะหลายเดือน ไม่ติดต่อพวกกูเลย” -_-;

“ไปแต่งงาน”

“ห๊า !! ...เรื่องจริงที่แม่มึงบอกว่ามึงแต่งงาน กับใครว่ะ แล้วทำไมไม่เชิยพวกกู มึงทำแบบนี้ได้ไง มึงยังเห็นพวกกูเป็นเพื่อนป่ะ”

“แต่งจริงๆ กับผู้ชายคนหนึ่ง ไม่ได้เชิญใครนอกจากคนในครอบครัว มึงยังเป็นเพื่อนกู แค่นี้นะ”

“ชานยอล ฟังกู พาเธอมาหาพวกกู!!” เสียงโหวกเหวกโวยวายดังเข้าผ่านมือถือกระแทกหูผม พวกมันอยู่กันทั้งกลุ่ม -_-; เอาแล้วไง เอาว่ะเจอก็เจอ ไม่นานก็ต้องเจอ

“เมื่อไหร่”

“คืนนี้ร้านเดิมพวกเรา เอ๊ะ...เดี๋ยวนะกูฟังผิดไหม มึงบอกว่าแต่งงานกับผู้ชาย”

“ใช่! ผู้ชายคืนนี้เจอกัน” ผมกดตัดสาย

 

 

 

 

18:03 ทำไมภรรยาผมยังไม่กลับมา
 

ผมเดินไปเดินมา แขนตั้งไว้บนอกมือเท้าคางตามองถนนหน้าบ้าน มันช้ากว่าปกติ วันนี้ทั้งวันผมไม่เป็นอันทำงานอีกตามเคย คำพูดขู่ของเขาเมื่อคืนทำผมขาดความมั่นใจลดลงจนตอนนี้มันเหลือศูนย์ไปแล้ว ‘เลือกว่าจะเป็นเมียผม หรือรอให้ผมเป็นเมีย’ โอ้วว์ พระเจ้า! T^T; ชานยอลดับแผนพิฆาต ลบล้างทฤษฎีทุกอย่างของลูกไปหมดแล้ว
 

ความรู้สึกผมอดใจไม่ไหวที่มันจะหมุนย้อนกลับไปวันที่ผมตอบตกลงกับแม่เรื่องแต่งงาน เราได้ยินเสียงเจ้าสาวเป็นครั้งแรก เราคุยกับเป็นภาษาอังกฤษ เขาตอบคำถามผมและผมตอบคำถามเขาเกี่ยวกับเรื่องงานแต่งงานของเรา ผมไม่ใส่ใจอะไรกับการแต่งงานครั้งนี้การทำความรู้จักกันครั้งนั้นจึงน้อยเกินไป ทุกคนก็เหมือนกันหมดในสายตาผม อยู่ด้วยกันไม่ได้ก็เลิก อย่างเดียวที่ผมทำตอนนั้นคือเรียนภาษาเกาหลี เพราะผมอาจต้องมาอยู่ที่นี่ซักพัก ตอนนี้ความรู้สึกผมบอกผมว่า ผมพลาดไปแล้ว
 

“กลับมาแล้วครับ”

เย้! ภรรยาผมกลับมาแล้ว คิดถึงจังเลย >/<; มาให้กอดหน่อยเร็ว

“มาแล้วเหรอ น้ำเย็นๆไหม พี่ไปเอาให้”

“ไม่เอาครับ ขอบคุณนะ” ภรรยาผมส่ายหัวยิ้มหวานให้ผม ^^;

“เหนื่อยไหม?”

“ไม่เหนื่อยครับ ง่วงจัง ไปนอนกอดกันซักสองชม.เถอะ แล้วออกไปข้างนอกกับผมนะ”

“เห้ ...O_o;”


 

ภรรยาซุกตัวเข้าสู่อกของผม สองแขนผมส่งสัมผัสโอบรอบอย่างนุ่มนวล เขาเหนื่อยมากแน่นอน มือผมลูบไรผมนุ่มเบาๆ เรานอนกอดกันอยู่บนโซฟาตัวกว้าง เหมือนชานยอลไม่ค่อยชอบแสงไฟ เขาไม่เคยเปิดไฟในห้องนี้เลย ถ้าแสงจากข้างนอกยังส่งผ่านกระจกเข้ามาให้มองเห็นได้ ผมกดจูบกลางกระหม่อมเขาซ้ำไปซ้ำมา ผมไม่รู้หรอกว่าผมทำแบบนั้นทำไม ผมไม่รู้อะไรอีกแล้ว แค่ทำตามที่ผมอยากทำ ถึงผมจะอึดอัดกังวล แต่พอเห็นเขาเป็นแบบนี้ ความรู้สึกพวกนั้นก็เหมือนถูกพักไว้ทันที

ชานยอลหลับไปแล้ว …

 

 

 
 

21.10

บนรถของเรา แน่นอนว่าผมไม่ได้เป็นคนขับ ภรรยาผมนัดกับเพื่อนไว้ เขาบอกให้ผมมาด้วย เพราะเพื่อนๆอยากเจอผม ผมรู้สึกประหม่ามากตอนนี้ กลุ่มเพื่อนมักนิสัยเหมือนเรา แล้วเพื่อนภรรยาผมล่ะ จะเหมือนกับเขาไหม วันนี้คนข้างกายผมโคตรหล่อ เชิตสีดำปลดกระดุมไว้สองเม็ดพับแขนลวกๆ บอกเสน่ห์ของผู้ชายได้อย่างดี ผมเซตเข้าทรงไม่เนี๊ยบแต่ก็ไม่ดูรกรุงรังจนเกินไป เยี่ยม รสนิยมน้ำหอมเขาโชยคล้ายกลิ่นแอลกอฮอล์หรูเผาไหม้ไฟอ่อนๆ กางเกงยีนส์สีดำเดฟเข้าติดขาเรียวยาวของเขา แต่รองเท้ากับเป็นชนิดใส่เล่นกีฬาแต่ยังคุมโทนสีดำไว้ ผมชอบเกือบทุกอย่างในตัวของภรรยาผมตอนนี้ ยกเว้นบุหรี่พกไว้ที่กระเป๋าหลัง
-_-;

ชานยอลส่งกระเป๋าตังค์มาให้ผม ผมเน็บใส่กระเป๋าหลังของกางเกงผมเหมือนกัน ผมแต่งตัวสบายๆวันนี้ เสื้อคอกลมสีดำกับแจคเกตวินเทจปกตั้งสูงปักกระดุมคลาสสิคสีทอง ส่วนคอมีดีเทลสายปักเส้นเล็กๆตามตะเข็บเข้ากับกระดุมเสื้อ ผมพอใจกับผลงานออกแบบของตัวผมเอง ผมเป็นคนมีพรสวรรค์ด้านนี้ ^^;
 

รถเราจอดด้านหน้าพื้นที่ลานจอดรถ เขาเดินนำผมไปตามทางเดินเล็กๆลงไปสู่ทางเดินใต้ดิน ผนังที่เราเดินผ่านเป็นอิฐบล๊อกสีน้ำตาลแดงเรียงซ้อน ผมมองสถานที่รอบๆ
 

“พี่ครับ วันนี้ผมอาจจะดูแปลกไปสำหรับพี่นะ”

“หืม? ว่าอะไรนะ แปลกยังไงเหรอ” O_o;

“อย่าตกใจล่ะ” เขาตบแก้มผมเบาๆ เอ่อ -_-;

 

 

“ดูสิ ใครมา ...ชานยอลลลลลลของเรา !! ว้าววว”
 

บรรยากาศอบอุ่นของกลุ่มเพื่อนที่ทักทายกัน อย่างเป็นกันเอง ผมยิ้มตามเมื่อเห็นภรรยาผมมีความสุข แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าอยากให้ชานยอลไปเจอเพื่อนของผมบ้างเหมือนกัน
 

“สวัสดีครับ” เพื่อนคนหนึ่งของเขาก้มให้ ผมก้มกลับเหมือนกัน “ผมจงอินครับคุณคือ?” เขายื่นมือมาให้ผม

“คริสครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณจงอิน” ผมจับมือกระชับมันแน่นและปล่อยออกตามมารยาท เขาผิวเข้มหน้าคมดูไม่เหมือนคนเกาหลี

“ซูโฮครับ เป็นรุ่นพี่หมอนี่” อ่อพอดูออก ตัวเล็กผิวขาวหน้าเกาหลีธรรมชาติ

“จงแดครับเพื่อนชานยอล” ตัวเล็กอีกเหมือนกัน ดูเรียบร้อยกว่า

“กุกจงครับเพื่อนของทุกคน” สูงพอประมาณหน้าคมเข้มแต่ผิวขาว

“แพคฮยอนครับแฟนเก่า!”

O_o; เห้ ผมหยุดมองที่หน้าผู้ชายรูปร่างเล็กหน้าจิ้มลิ้ม แล้วหันไปมองหน้าภรรยาตัวเอง เขาส่ายหัวให้ เฮ้อ...ฟู่ -_-;

“ฮ่าๆๆๆๆ ผมล้อเล่นครับ” เขาที่ชื่อแพคฮยอนหัวเราะให้ผม

“คยองซูครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” ผู้ชายตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม หน้าหวานตาโตทักผม

“เซฮุนล่ะ” ภรรยาผมถามหาเพื่อนอีกคน

“ยืนเก็กสั่งเหล้าอยู่โน้นไง-_-;” ซูโฮเป็นคนตอบ ผู้ชายหน้าหวานตัวสูงพอๆกับภรรยาของผม เขาทำสีผมสีเดียวกับที่ผมทำอยู่ เอ...ไม่สิ พอมองดูดีๆแล้วของเขาสว่างกว่า

เราทั้งหมดนั่งล้อมวงกันในมุมเล็กๆของร้าน ผมกับภรรยานั่งโซฟาตัวเดียวกัน เขาเอนไหล่มาซบอกผม เราจับมือกันกุมไว้ที่หน้าท้องของเขา ปฏิกิริยาเพื่อนของเขามองมาที่ผมแปลกๆจนผมรู้สึกได้ ผมก็ว่ามันเริ่มแปลกตั้งแต่ภรรยาผมซบแล้วล่ะ -_-;

“เราไม่ได้มาดื่มแบบนี้นานแล้วนะ มาชนกันหน่อย!! เร็วสิๆ” เซฮุนพูดขึ้น

“ดื่มให้กับมิตรภาพของพวกเราทุกคน อ่า...และสำหรับการแต่งงานของเพื่อนรักเรา ชานยอล !!” จงแดพูดเสริม

ผมยกมาจิบอึกหนึ่งกลืนลงคอ -_-; แล้ววางแก้วลง ผมดื่มไม่เก่ง ภรรยาของผมยกรวดเดียวหมดแก้ว T[]T; เมียกูไม่ธรรมดาจริงๆ พวกเขาพูดคุยกันหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน ผมนั่งเงียบๆและยิ้มรับตอนที่ภรรยาผมหันมามองผม ตอบคำถามกลับไปบ้างบางครั้งในเรื่องของผม ไม่ได้คุยอะไรพิเศษมากมายกว่านี้ กลุ่มเพื่อนของชานยอลดูให้เกียติผมมาก เราคุยกันแบบลูกผู้ชาย ไม่เซ้าซี้เรื่องส่วนตัวคนอื่นและถามเรื่องราวเล็กๆน้อยๆ

“เน่ๆ สาวโต๊ะนั้นมองมาว่ะ สวยๆทั้งนั้นเลย” จงอินพูดขึ้นมองไปโต๊ะผู้หญิงสี่คนที่อยู่ถัดเราไปสามโต๊ะ

“เล่นเกมกันไหม เรามีกัน 9 คนตัดออก 2 เหลือ 7 พวกเธอมี 4 ในพวกเรา 3 คนต้องอด ใครเริ่มก่อน” กุกจงออกไอเดียขึ้น ทุกคนดูสนใจ
 

ชานยอลเงยมองหน้าผม ผมส่ายหน้าผมไม่ได้สนใจผู้หญิงอยู่แล้ว -.-;

ก๊องๆ ...เสียงเคาะแก้วดังขึ้น “ฟังนะ เกมคือคนที่สาวพวกนั้นเดินมาหาก่อนจะได้ไป ทำตัวให้น่าสนใจที่สุด แพ้เลี้ยงเหล้า!” ซูโฮตั้งกติกา
 

จงอิน เซฮุนลุกขึ้นยืนเดินไปที่ฟอล ร่างกายพวกเขาขยับตามเพลงด้วยความรวดเร็ว ลีลาการแดนท์ของพวกเขาไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่ถึงนาทีคนล้อมวงส่งเสียงเชียร์พวกเขาอย่างเร่าร้อน เมื่อเพลงจบลง ซูโฮ จงแด แพคฮยอน คยองซูลุกขึ้นจากโต๊ะไปเหมือนกัน บนเวทีของนักร้องมีเปียโนวางอยู่ แน่นอนพวกเราน่าจะโชว์เพลงงช้าเพราะๆซักเพลง แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะเพราะไหม เพราะยังไม่เคยฟัง ตอนนี้จงอินกับเซฮุน นั่งอยู่หน้าบาร์แล้ว
 

เพลงที่เขาทั้ง 4 คนเริ่มร้อง...

…Time after time 모두 다 내 탓이야

ครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกอย่างคือความผิดของผมเอง

And don't ask me why 난 볼 수 없으니

และอย่าถามว่าทำไม ผมเองก็มองไม่เห็น

넌 지금 my luck 바뀔 거라 했지만

ตอนนี้คุณคือคนที่เคยจะเปลี่ยนแปลงโชคของผม แต่ว่า

난 그렇지가 않아 그건 네 착각이야

ผมไม่ได้เป็นแบบนั้น มันเป็นแค่สิ่งที่คุณคิดไปเอง…
 

 Wow เสียงพวกเขาทั้ง 4 คนเพราะมากครับ แต่ผมละสายตาจากพวกเขาบนเวทีมามองคนข้างๆผมก่อน ชานยอลนั่งดื่มเหล้าชนแก้วแล้วชนอีกกลับเพื่อนที่เหลือ มือหนึ่งถือแก้วเหล้าอีกมือคีบบุหรี่สูบเข้าปาก พ่นควันลอยขึ้น หัวเราะอารมณ์ดี -O-; เขาลุกไปนั่งข้างๆเพื่อนเข้าแล้วกอดคอกันกระดกขวดเหล้าเข้าปาก หมากฝรั่งถูกคายลงที่มือแล้วแปะไว้ที่ของโต๊ะ T[]T; เขาที่ผมไม่เคยเห็นจริงๆอย่างที่เขาบอก ไม่ใช่แค่คำว่าแมนกว่าผมเท่านั้น ภรรยาของผมเหมือนเด็กเกเร ผู้ชายเท่ๆตามผับ -_-; เอาให้คำตรงตัวเลยแล้วกัน แบดบอย ! ภาพตรงหน้าที่ผมต้องยอมรับมัน
 

…I can't take this no more 미쳐버리겠어

ผมทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ผมจะเป็นบ้า

I know you're not the one 이 말은 하고 갈게

ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่คนนั้น ผมจะจากไปหลังจากพูดจบ

You're just another girl 나를 가지고만 노는 너

คุณก็แค่ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ที่มาเล่นกับผม

You're just another girl 나를 아프게 하지마

คุณก็แค่ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง อย่าทำร้ายผมเลย

왜 이래 왜 또 say good bye ya

ทำไมล่ะ ทำไม ถึงบอกลาอีกครั้ง

내 탓은 하고 가지마

อย่ามาโทษผมแล้วก็จากไป

Cause you're just another girl

เพราะคุณเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง…
 

เพลงที่ดังเข้าหูผมผสมกับภาพตรงหน้าได้ดี ผมยกเหล้าขึ้นดื่มเหมือนกัน แสงไฟเสียงผู้คนกลิ่นไอบุหรี่ ความสนุกสานหมุนอยู่รอบตัวผม ผมกอดคอเขาแล้วชนเหล้า ผมไม่รู้ว่าใครเป็นใครแล้วตอนนี้ นอกจากเขาคนเดียว ภรรยาของผม
 

เพื่อนอีกสามคนเขาออกไปแล้ว ไปไหนผมไม่รู้ เหลือแค่เรา ชานยอลปลดกระดุมเสื้อออกเพราะความร้อน เอนตัวนั่งถ่างขาออกกวาดวงแขนกว้าง เขย่าเสื้อไล่ความร้อน ผมทิ้งตัวนั่งข้างๆท่าเดียวกัน ช่วงอึดใจเรามองหน้ากันไปมาแต่ไม่ได้พูดอะไร ฤทธิ์เหล้าทำให้ผมมึนไปหมด เหมือนมีใครซักคนเดินมาตรงหน้าผม ผู้หญิงเหรอ?
 

“โทษนะคะ ขอนั่งดื่มด้วยคนสิ”

เธอคนหนึ่งนั่งข้างผมแล้วยื่นแก้วให้ ตาผมกลับผมมองเธออีกคนที่นั่งข้างชานยอลตอนนี้ เขาไม่ทำอะไรนอกจากไล่ความร้อนออกจากเสื้อ และไม่ได้สนใจที่ผมมีใครมานั่งข้างๆ ผมรับเหล้าจากเธอที่ยื่นให้ ดื่มมันจนหมดแล้วส่งแก้วกลับไป เธอเข้ามาลูบไล้หน้าท้องของผมผ่านเสื้อ เบี่ยงตัวมาคร่อมตัวผมอย่างยั่วยวน ผมกลืนน้ำลายลงคอ ไม่ใช่เพราะแรงอารมณ์ของผมถูกกระตุ้น  แต่ผมกลัวคนข้างกายของผมมากกว่า -_-;
 

หมั๊บ ! ข้อมือเธอที่รุกรานถูกจับไว้ ผมมองการกระทำของเขาเงียบๆ

“กลับไปที่โต๊ะเถอะครับ ปล่อยเรา”

“ทำไมล่ะคะ เราสวยไม่พอเหรอ? หรือต้องปล่อยของก่อน” เธอยิ้มยั่วยวนเบียดหน้าอกติดกับต้นแขนเขา เธออีกคนโอบรอบไหล่แล้วปลดกระดุมเสื้อเขาออก ผมอึ้งกับสิ่งที่เห็น เมียผมมองพวกเธอเหมือนเป็นเรื่องปกติ ผมถอยตัวออกแล้ว นั่งรอ... ดูสิ่งที่จะเกิดขึ้น

“ขอตัวนะ ผมเบื่อแล้ว” เขายันตัวกำลังจะลุกขึ้น แต่เธอกดเข่าลงที่เป้ากางเกงเขา ผมกำมือแน่น แต่ผมก็รอ

“อ่อนหัดก็บอกมาเถอะคะ เด็กๆล่ะสิ” เสียงเธอกระเส่าเขา หน้าอกตูมของเธอเย้ยอยู่ปลายจมูกคนของผม

ผมลุกขึ้นยืน ผมต้องทำอะไรซักอย่างแล้วพาเขากลับ แต่ไม่ทันที่ผมจะทำอะไร สิ่งที่ผมเห็นทำให้ขาผมไร้เรี่ยวแรงทิ้งตัวลงเก้าอี้ หยุดทุกอย่าง
 

เขารวบตัวเธอเข้าอ้อมกอด มือล้วงเข้ากระโปรงสั้นของเธอ เธอส่งเสียงครางออกมาเสียงดังแล้วจูบเขาอย่างดูดดื่ม ผมทนดูต่อไปไม่ไหวแน่ๆ ผมลุกขึ้นอีกครั้งถือขวดเหล้าติดมือออกมา
 

“โอ๊ย !... เจ็บนะคะ” ผมกัดฟันหันไปตามเสียงของผู้หญิงร้อง

เธอทั้งคู่ถูกผลักล่วงลงจากโซฟา อย่างไม่น่าใยดี ฝีมือภรรยาผมเหรอ ? เขาลุกขึ้นยืนจับเสื้อให้เข้าที่ เธอคนหนึ่งลุกขึ้นยืนตาม แล้วจับแขนเข้าไว้แน่น เขาสลัดมันพร้อมรวบเอวเธอโยนไปกระแทกโซฟา เขาเอื้อมมือมาจับขวดเหล้า
 

“ชานยอล!” ผมจับแขนเขาไว้ ก่อนที่เขาจะฟาดมันลงไป

“ป่าว ผมกำลังจะกลับ” เขาจูงมือผมออกมา ไม่หรอกมันเป็นแบบที่ผมคิดแน่ๆ

 

 

ขับรถออกมาซักพักแล้ว บรรยากาศในรถชั่งน่าอึดอัด เราทั้งคู่ไม่คุยกัน ผมอยากให้เขาบอกผม คุยกับผมในสิ่งที่เขารู้สึก สายตาผมเบนออกไปนอกตัวรถแล้วกระดกเหล้าที่ติดมือมาเข้าปาก สติผมเริ่มหลุดออกจากตัวแล้ว

 

 

 

 

 

เกือบตี 1

ผมขับรถมาจอดใกล้แม่น้ำฮัน พี่คริสเมาแล้ว ร่างสูงของเขาเซไปเซมา เดินมาหาผมที่ยืนมองแม่น้ำอยู่ ผมเข้าไปประครองไว้
 

“ชานยอล!” เขารวบตัวผมกระชากคอเสื้อขึ้น ผมหน้าเหวอ O_o;

“เอ่อ ผมขอโทษ โกรธผมใช่ไหม ใจเย็นๆนะ ผมมีเหตุผล ฟังผมก่อน...”

“นายชอบผู้ชายหรือป่าว! ตอบพี่...”

สายตาจริงจังของเขาส่งมาที่ผม ใบหน้าเราเย้ยหยันกันจนชิดปลายจมูก ผมไม่ได้หลบตาเขา ผมต้องเขย่งปลายเท้าไว้นิดๆ เพราะเขาไม่ปล่อยคอเสื้อผมลง

“นายแต่งงานเพราะอะไรชานยอล แต่งกับพี่ทำไม ถ้านายไม่ได้ชอบผู้ชาย ถ้านายไม่สามารถเป็นของผู้ชายด้วยกันได้ รู้ไหม ... คำถามมันแน่นอยู่ในหัวใจของพี่มากแค่ไหน เป็นร้อยคำถามที่เกี่ยวกับตัวนาย นายกำลังจะทำให้พี่เป็นบ้า นายรู้ไหม !”
 

หัวใจของผมกระตุกวาบ เขาที่ตะโกนใส่หน้าผมมาไม่ยั้ง ความอึดอัดที่เขาเจอ เพราะผมผิดเอง เพราะอะไรเหรอ อะไรทำให้เขาคิดมากขนาดนี้ ทั้งที่เราเพิ่งได้เรียนรู้กัน
 

“ตอบมาเส่! ชานยอล! ตอบมาเดี๋ยวนี้ นายรักผู้ชายได้ไหม ได้ไหม!”

เขาปล่อยคอเสื้อผมลง พลั๊ก ! มือผลักกระแทกอกผมอย่างแรง ผมเซไปด้านหลังจนเกือบล้มลง ผมมองหน้าเขาด้วยความรู้สึกที่หลากหลายและโกรธ

“ถ้าผมนอนกับพี่ก็จบใช่ไหม” เขาจะเลิกสงสัยใช่ไหม

“…” เขาเงียบ ตาคมเกรี้ยวกราดมองมาที่ผมหนักกว่าเดิม

“ในรถก็ได้นะ ตรงนี้ก็ได้” ผมชี้นิ้วลงพื้นที่ผมยืนอยู่ “เอาสิ เข้ามา”
 

น้ำตาใสๆไหลออกจากดวงตาคมเข้ม ผ่านใบหน้าหล่อเหลา ตัวผมเองชาไปหมดเมื่อเห็นเขาเป็นแบบนั้น เขาร้องไห้ออกมาเพราะผม อย่างกับว่าผมถูกสาปให้เป็นหินไปทั้งร่าง แม้กระทั่งปากที่จะเอ่ยอะไรออกมาก็ไร้เสียงและเรี่ยวแรง เพียงแค่ดวงตาผมเท่านั้นที่ชัดเจน เขากำลังหันหลังกลับ ขาเขาก้าวไปข้างหน้าเหมือนกำลังจะหนีผมไป
 

“พี่ครับ” แรงด้านชาทั้งหมดที่ผมมีรวบแขนเข้าไว้

เขาหยุดเดิน

“ผมชอบ … พี่นะ”

เท่าที่ผมรู้สึกทั้งหมดตอนนี้ ขอแค่รั้งเขาไว้ถ้าเขารู้สึกเหมือนผม ผมขอโทษ…

 

 






 

 

‘ผมชอบ …พี่นะ’

คำที่เหมือนหยุดโลกทั้งใบของผมที่แหลกสลายก่อนร่วงลงพื้นขึ้นมาประกอบใหม่ ใจผมเหมือนมีหยดน้ำใสๆเพียงหยดเดียวที่ยื้อความหมดหวังของผมไว้ ผมหันหลังกลับไป ไม่ต้องพูดอะไรกันอีกแล้ว พอแล้ว ผมดึงร่างตรงหน้าเข้าสู่อ้อมกอดท่อนแขนผมกระชับด้วยแรงทั้งหมดที่มี แค่นี้ก็พอแล้ว สำหรับผม ทุกอย่างหยุดแล้ว ยกเว้นน้ำตาของผม  ครั้งแรกมันไหลออกมาด้วยความสิ้นหวัง และกดดัน แต่อีกครั้งเหมือนมันกำลังคืนชีวิตใหม่

“พี่ก็ชอบนาย ชานยอล”

“ผมรู้”



 

 

คืนที่ 5

bottom of page