top of page

 

 

17:50 ตะวันเกือบลับขอบฟ้า

-_-; ตั้งแต่ตอนบ่ายที่ผมตื่นขึ้นมา  หน้าผมก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว ชานยอลนั่งมองผมอยู่ข้างเตียง ผมถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาบอกว่าผมป่วยเพราะตากฝน แล้วพาผมกลับบ้าน เขาเตรียมข้าวกับยาไว้ให้ผมแล้ว แค่รอให้ผมฟื้น ทันทีเลยครับ พอผมลืมตาขึ้นมาได้ เขาก็ขอตัวออกไปทำงาน เย็นชากับผมเสมอตั้นเสมอปลายจริงๆคุณภรรยา
 

เรื่องที่น่าเซ็งที่สุดคือเรื่องเมื่อคืน มันอาจจะเป็นโอกาสทองสำหรับผม แต่เวรเอ๊ย หลุดไปแล้ว ผมไม่อยากจะคิดภาพตาม ถ้าผมป่วยเขาคงไม่ใช้สองแขนอุ้มผมเข้าบ้านหรอกมั้ง ยิ่งคิดก็ยิ่งเคียด T.T;

 

            จากห้องนั่งเล่น ผมเห็นรถภรรยาขับเข้ามา

            “กลับมาแล้วครับ เป็นยังไงบ้าง”

            “หายแล้ว” -_-; ผมตอบไปแบบโคตรเซ็ง

            “ทนข้าวกับยาหรือป่าว”

            “เรียบร้อย”

            “เยี่ยม”
 

            เขาเดินเข้าห้องไป ไม่สนใจผมเลย Y.Y; เดี๋ยวก็เอาใจใส่ผมมากมาย แต่ก็เหมือนไม่สนใจผมซักนิด มันยังไงกันแน่ ผมนั่งหน้างอมองออกไปดูสวนหย่อมเล็กที่ภรรยาผมเป็นคนจัดไว้ ผมลืมสังเกตไปเลยว่ามีดอกไม้สีขาวเล็กๆ เป็นชนิดเดียวกับที่ผมชอบเป๊ะ เขาก็ชอบเหมือนกันเหรอ หรือว่าแค่บังเอิญว่ามันสวย
 

            ชานยอลเดินออกมาจากห้องกับผ้าคุมสีขาวผืนใหญ่ ถักลายลูกไม้สวยงามทั้งผืน ผมขี้เกียจคุยกับเขาตอนนี้ อารมณ์คนป่วยไม่ค่อยปกติ ชั่งเถอะ นั่งหันหลังให้แล้วแกล้งมองออกไปข้างนอกเหมือนเดิมดีกว่า

            ฟุ๊บ ...ผ้าคุมสวมกอดเข้ามาข้างหลังผมพร้อมกับแขนที่โอบรอบคอผมไว้ คนข้างหลังผมแนบหน้ากับคอผม เอ่อ...ถูกห่มผ้าแบบนี้ มันทำให้ผมหน้าแดงขึ้นมานะ

^^; น่ารักจัง ไม่ๆยังดิ / -_-; อย่าเพิ่งไปสนใจตอนนี้
 

“ตัวอุ่นๆอยู่นะ ไม่ร้อนเหมือนเมื่อคืน ก็ดีแล้ว หายห่วงหน่อย”

“ห่วงด้วยเหรอ”

“ครับห่วง”

“เพราะ?”

“อยากให้ตอบว่าอะไรครับ หน้าที่หรือความรู้สึก” เขามานั่งข้างๆแล้วยิ้มเย้ยผม โอเคผมผิดเอง

“ไม่รู้ พี่เป็นคนป่วยอยู่ ไม่มีคนสนใจ ไม่พอใจ แล้วเรื่องเมื่อคืนมันทำให้เซ็ง” ผมบอกออกไปตรงๆ

“ผมรู้ว่าป่วย ผมเหรอที่ไม่สนใจ เราเริ่มใหม่กันได้ รักษาตัวก่อน”

“^o^; หายแล้วครับ ร่างกายพี่เป็นปกติทุกอย่าง”

“เฮ้อ...ผมขอนอนสองชม.นะ ร่างกายผมเหนื่อยมาก เหมือนผมจะติดใข้หวัดจากพี่ อาหารผมทำไว้แล้ว หิวก็เรียกนะครับเดี๋ยวลุกมาจัดโต๊ะให้”

“เห้ย ...ป่วยตามพี่ได้ไง แค่นั่งเฝ้าตอนเช้า -_-; บอบบางเหมือนกันนะเรา”

“เพราะผมนอนกอดพี่ไว้ทั้งคืน! นี่ครับ...”
 

T[]T; สิ้นคำพูดของเขาที่เดินเข้าไปในห้องเหมือนผมจะสิ้นใจร่างกายเย็นเฉียบเหมือนโดนอัดแช่แข็งกลางภูเขาลูกโตทับออยู่ ตรงข้ามกับความรู้สึกภายในหัวใจของผมเหมือนมันจะระเบิดพุ่งความร้อนที่อัดอยู่ปะทุออกมา …เพราะผมนอนกอดพี่ไว้ทั้งคืน! นี่ครับ...!!! ประโยคสั้นๆ ที่กระแทกเข้ามาทุกโสตประสาทของผม ทำให้ผมนึกย้อนไปตอนที่ผมตื่นขึ้น อ่า...สภาพของชานยอล ก็เหมือนคนป่วยไม่ต่างจากผม แต่ผมคิดว่าเขาเหนื่อยเพราะเช็ดตัวให้ผมถึงนอนน้อย  อ่า...แล้วตอนที่ผมเข้าห้องน้ำหลังจากที่เขาออกไปทำงาน เสื้อของชุดนอนผมพาดทับอยู่กับผ้าเช็ดตัวของเขา เห้ ! เขาถอดเสื้อผมออกเหรอ และเรานอนกอดกัน เขากอดผมไว้ ผมนี่โง่จริงๆ -_-; คิดว่าเขาแค่เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ T.T; ผมพลาดอะไรไปอีกไหมนะ เหมือนคืนที่ผ่านมาเป็นวันด้อยโอกาสของผมจริงๆ
 

รู้สึกเป็นห่วงแปลกๆ ผมเดินตามเข้าไปข้างในห้องของเรา เห็นคนบนเตียงไม่ได้เปลี่ยนชุด สูทนอกถูกวางบนเก้าอี้สูงข้างเตียง ผมนั่งลงบนเตียงข้างๆภรรยาของตัวเอง วางมือไว้บนไรผมนุ่ม กดจมูกลงชนกับขมับแล้วกดปากย้ำลงไปหาคนที่นอนหลับใหล เพื่อขอบคุณ

‘ขอบคุณครับ ภรรยาของผม’

 

 
 

19.45 เกือบสองชม. ภรรยาผมยังหลับอยู่

ผมคั่นหนังสือหน้าที่อ่านค้างไว้ก่อนพับปกเข้าหากันวางไว้ข้างๆหัวเตียง ท้องเริ่มร้องเมื่อมันถึงเวลา หัวของผมยังมึนอยู่นิดๆ อีกหนึ่งถึงสองวันผมก็น่าจะหายดี ชานยอลเตรียมอาหารอุ่นไว้ให้ผมแล้วเรียบร้อย เวลาที่ตั้งไว้ที่เตาอุ่นความร้อนคงที่ไว้ 2 ชม. เขาตั้งใจจะนอนแค่นั้นแล้วลุกขึ้นมาจัดโต๊ะอาหารให้ผมจริงๆเหรอ ผมกดปิดเวลาแล้วดึงมันออกไม่ให้ดังเตือนขึ้น ถ้านี่เป็นหน้าที่ของเขาที่จะดูแลผม ผมก็จะไม่คิดมากอีกต่อไปแล้ว เราเพิ่งรู้จักกันไม่กี่วัน ต้องแต่งงานแล้วใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ผมคิดไปเองว่าต้องทำโน้นนี่นั่นมากมายเพื่อให้เขาเป็นของผม เราเป็นของกัน ถึงสามารถเปิดใจใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ แต่สิ่งที่ภรรยาผมทำมันตรงข้าม เขาใส่ใจผมจากการกระทำ เป็นการกระทำง่ายๆที่ไม่วิเศษหวือหวาอะไรเลย  ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้าจนถึงตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจทุกอย่าง ผมมันบ้าไปเอง ผมรู้แล้วว่าแม่ให้ผมแต่งงานกับชานยอลทำไม ถึงเราไม่รู้จักกัน ไม่ได้รักกัน การแต่งงานครั้งนี้ก็จะสมบูรณ์อยู่ดี เพราะผมจะเริ่มชอบและรักภรรยาของผมเอง  เขาที่คล้ายกับแม่ คือสิ่งที่ผมคิด แต่สิ่งที่แม่ผมคิด ถ้าผมเดาไม่ผิดคือแม่อยากให้ผมเจอคนที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยได้อย่างมีความสุข ผมเริ่มอยากถามภรรยาของตัวเองบ้างแล้วว่า แต่งงานกับผมเพราะอะไร ?
 

“ชานยอล ชานยอล ชาน ...ยอ”

ผมแตะไหล่เขาเบาๆให้ตื่นขึ้น จำเป็นต้องปลุกขึ้นมาให้ทานข้าวทานยา ผมจัดโต๊ะอาหารไว้รอแล้ว

“หืม ? ว่าไงครับ หิวแล้วเหรอ”

เสียงงัวเงียอู้อี้ในลำคอ พลิกตัวขึ้นมามองหน้าผม ผมยิ้มอบอุ่นให้คนตรงหน้าตอนนี้แล้วลูบหัวเบาๆ อดใจจะลูบหัวเขาไม่ได้จริงๆ  

“อ่า...เกือบสามทุ่มแล้ว ทำไมไม่ปลุกล่ะครับ ทานข้าวทานยาหรือยัง แล้วอาหารที่ผมอุ่นไว้ พี่คริสหิวมากไหมครับ แป๊บนึงนะ ผมไปเตรียม ห่ะ...ให้ เดี๋ยวนี้แหละ”

ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ มือผมรั้งเอวบางที่ยันตัวลุกขึ้นเข้าสู่อ้อมแขนกระชับแรงกอดจากท่อนแขนแนบตัวอีกร่างเข้าซุกอก

“ปวดหัวไหม”

“ไม่ครับ”

“เหนื่อยมากไหม”

“ไม่ครับ”

“ขอบใจนะ”

“ไม่ครับ”

“เห้...ทำไมถึงบอกว่า ม่า ย...อุ๊บ!”
 

คำพูดของผมหยุดลงที่ริมฝีปากเมื่อเขาโอบรอบคอผมไว้ ฉวยใบหน้าผมโน้มลงไปใกล้ๆ แนบริมฝีปากตัวเองปิดริมฝีปากผม อย่างที่ผมเองก็ไม่ทันตั้งตัว แล้วก็ปล่อยริมฝีปากผมออกให้เป็นอิสระ แต่ผมไม่ยอม

ผมแนบริมฝีปากชิดเข้าไปอีกครั้ง จูบกดปากด้านล่างให้เขาเปิดปากเผยออกให้เห็นลิ้นเล็กๆที่สั่นรออยู่ด้านใน อีกครั้งที่ผมประกบลิ้นตัวเองเข้าไป สัมผัสที่อ่อนหวาน นุ่มนวนอยากถนอมคนตรงหน้า แต่อารมณ์ผมชักพาให้ร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง มือที่ผมไม่ได้ตั้งใจกระชับรอบเอวเข้าท่อนแขน กดหน้าให้อีกคนนอนลง พร้อมรวบปลายนิ้วกดไว้บนหมอน ความดุดันที่ผมบังคับไม่อยู่ตักตวงความหวานช่ำในปากจากปลายลิ้น เนิ่นนานไม่รู้กี่นาที ก่อนที่ผมจะค่อยๆปล่อยให้เขาเป็นอิสระ ค่อยๆคลายแรงกดดันออกช้าๆจากปลายนิ้วและอ้อมกอด จูบแรกที่เขาเป็นของผมอย่างสมบูรณ์ ไร้แรงเสียดสี หยอกล้อและต่อต้าน

“ขอบคุณแบบนี้เหรอ”

“อื้ม”

^.,^; พี่รู้สึกอยากขอบคุณทุกนาทีเลยครับ

 

 

 

 

22.00 เรานั่งดูทีวีด้วยกัน

ผมอยู่ในอ้อมกอดของคนป่วยที่เปิดช่องสารคดี ดูชีวิตของกิ้งก่าทะเลทรายอมยิ้มหน้าระรื่น -_-; พิษไข้ที่ผมไม่มั่นใจว่ามันหายดีหรือยัง เขาบังคับให้ผมชันเข่าขึ้นแล้วนั่งอยู่ในอกที่ท่อนแขนเขาโอบรอบตัวผมไว้ ยอมรับตามตรงว่าผมรู้สึกเมื่อยเพราะผมไม่ใช่ผู้ชายตัวเล็กกระทัดรัด แต่มันเป็นความสุขของเขา ผมก็ยอมทนไปก่อนล่ะกัน

“เปลี่ยนช่องได้หรือยัง”

“ดูชีวิตของหมีแพนด้าก่อน”

“ทำไมต้องหมีแพนด้า อย่างอื่นเยอะแยะ”

“เราจะได้รู้พฤติกรรมความน่ารักของมันไง นายไม่ชอบเหรอชานยอล พี่ชอบแพนด้านะ”

“ไปอยู่จีนกันไหมครับ ย้ายไปอยู่บ้านแม่พี่กัน ผมจะทำกรงให้”

“บ้านที่จีนไม่มีคนอยู่พอดีเลย เราไปฮานี่มูนที่นั้นนะ”

“-_-; ไปเพราะแพนด้าเหรอ”

“ใช่”

ทำไมไม่ไปแต่งกับแพนด้าว่ะ แต่งกับผมทำไมเนี่ย หลงใหลขนาดนั้นก็ไปเอามาอยู่ด้วยเลยไป แม่ง ฮานี่มูนเหรอ ฝันไปเถอะว่าผมจะไป หึ!

“เงียบทำไม”

“ดูแพนด้าอยู่!”

“มันน่ารักมากเลยเนอะชานยอล ว่าไหม?”

“เออครับ -_-;”

            ฟุ๊บ ! ทีวีถูกปิดจอภาพ ผมหันไปมอง?

            “ไม่ดูต่อเหรอครับไหนบอกว่าน่ารัก”

            “พี่บอกว่านายต่างหากที่น่ารัก ไม่ใช่แพนด้า”

            “หื้อ?” ผมไม่รู้จะตอบอะไรดี เขาซุกหน้ามาที่ไหล่ ฝังจมูกโด่งลงซอกคอผมเหมือนกับว่าผมจะมีอวัยวะอีกส่วนที่ซึมเข้าผิวหนังเพิ่ม ท่อนแขนรอบเอวที่กอดผมอยู่ถูกกระชับแน่นขึ้น ร่างกายผมไม่ได้ต่อต้านสัมผัสอะไรจากเขาทั้งนั้น อาจเพราะใจผมเองก็ไม่ต่อต้านเขาเหมือนกัน

            “ถามอะไรหน่อยได้ไหม”

            “ครับ”

            “ทำไมถึงยอมแต่งงานกับพี่” ผมไม่แปลกใจที่ได้ยินคำถามนี้ เขาน่าจะถามผมตั้งแต่วันแรกด้วยซ้ำ

            “เพราะผมอยากแต่งงาน”

            “เห้...”

            “ผมอยากมีชีวิตครอบครัวกับซักคน ผมไปนัดบอร์ดหลายครั้งแล้ว แต่การเดททำให้ผมไม่สามารถแต่งงานได้ ผมไม่เคยถูกใจคนที่เดทด้วย หรือคนที่ผมนอนด้วยก็เหมือนกัน”

            “แค่นั้นเหรอ?”

            “อืม แม่บอกว่าเพื่อนแม่มีลูกชาย เขาทั้งสองคนอยากให้เราแต่งงานกัน ผมคิดอยู่เกือบสี่เดือนกับเรื่องนี้ แต่ตอนนั้นผมก็เดทกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ เธอนิสัยดีน่ารักแต่ผมก็ไม่ได้ชอบเธอ เธอรู้ว่าผมเองก็ไม่มีความสุข จึงขอหยุดความสัมพันธ์ ผมเลยตอบตกลงกับแม่เรื่องของพี่”

            “อยู่กับพี่ไม่ได้เราก็จะหยุดความสัมพันธ์กันลงใช่ไหม?”

            “ครับใช่”

            “แต่ผมไม่คิดจะแต่งงานใหม่อีกแล้วนะ ผมคิดว่างานแต่งจัดครั้งเดียวก็เกินพอ นี่อาจจะเป็นการลองเสี่ยงโชคของผมครั้งแรกและครั้งเดียว ถ้าผมต้องอยู่คนเดียวต่อจากนี้ ผมก็จะยอมรับมัน”

            พี่คริสเงียบไป ไม่ได้ตอบอะไรผมกลับมาอีก เขาประครองให้ผมเอนตัวลงนอนที่โซฟา แล้วสวมกอดผมไว้จากด้านหลัง ดึงผ้าห่มมาคุมร่างเราสองคนไว้ ผมรู้ว่าตอนนี้เขาน่าจะมีความรู้สึกที่หลากหลายกจากคำตอบของผม

 

            ผมก็ได้คำตอบของตัวเองแล้วเหมือนกัน … ผมเลือกเขาแล้ว

แต่เขาจะเลือกผมไหม?




 

 

คืนที่ 3

bottom of page